วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ชีวประวัติหลวงปู่อุ้ย วัดคลองคล้า อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ พอสังเขป



หลวงปู่อุ้ย   วัดคลองคล้า  ตำบลชนแดน  อำเภอชนแดน  จังหวัดเพชรบูรณ์

ศิษย์ผู้สืบทอดวิชาของหลวงพ่อเขียน  สำนักขุนเณร  หลวงพ่อหวาน  วัดคลองคล้า  หลวงพ่อพวง  วัดน้ำพุฯ

หลวงปู่อุ้ย  วัดคลองคล้า  พระเกจิอาจารย์ที่เรืองวิทยาคมแห่งเมืองมะขามหวาน มีพลังจิตเข้มขลัง วิทยาคมแก่กล้า ชาวบ้านต่างเรียกขานนามท่านว่า หลวงตาอุ้ย หรือ หลวงปู่อุ้ย  ปัจจุบันอายุ 84 ปี 30 พรรษา

อัตโนประวัติ  หลวงปู่อุ้ย ศิริปัญโญ ( มีรัตน์ ) กำเนิดที่บ้านคลองลำภู  หมู่ที่ 2  ตำบลภูมิ  อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร  เป็นบุตรของคุณพ่อเชื้อ  มีรัตน์  คุณแม่พริ้ง จันทร์   มีพี่น้องร่วมอุทร 7  คน หลวงปู่อุ้ย เป็นบุตรคนที่ 2  ในวัยเด็กนั้นหลวงปู่อุ้ยช่วยพ่อแม่ประกอบอาชีพทำไร่ทำนา คุณพ่อ คุณแม่จะมอบหมายให้ท่านเลี้ยงน้องอยู่บ่อยๆ เพราะอุปนิสัยท่านเป็นคนใจเย็น มีเมตตา  ในวัยเด็กท่านชอบการศึกษาหาความรู้ตั้งแต่ยังเล็ก แหล่งความรู้ในสมัยก่อนนั้นจะอยู่ที่วัด พออายุได้  16  ปี อาของท่านจึงได้ชวนเข้าวัดมาเรียนหนังสือ ศึกษาธรรมะ มาพักอยู่ที่สำนักขุนเณร  และได้นำไปฝากฝังไว้กับหลวงพ่อเขียน   อาของท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดสำนักขุนเณร  ยังเป็นศิษย์องค์สำคัญของหลวงพ่อเขียนอีกด้วย  หลวงพ่อเขียน เป็นพระอภิญญา ท่านได้สั่งสอนถ่ายทอดสรรพวิชาให้ท่านมากมาย กล่าวกันว่า หลวงพ่อเขียน  วาจาท่านศักดิ์สิทธิ์ ไปมาไร้ร่องรอย อยู่กลางฝนแต่ไม่เปียกฝน เสกดินเป็นวัวธนูไล่โจร  ให้หวยแม่น    พอท่านเติบโตเป็นหนุ่มใหญ่ อยากจะมีครอบครัว ท่านได้แต่งงานกับคุณแม่ละม่อม มีบุตร 6  คน  ต่อจากนั้นคุณแม่ละม่อมเสียชีวิต  ท่านเบื่อทางโลกจึงหันมาบวชเมื่อปี  2530 จนถึงปัจจุบัน  ตอนนั้นมีพระครูพัชระโสภณ ( โสดา ) เป็นพระอุปัชฌาย์  พระอาจารย์ทองใบ เป็นพระกรรมวาจาจารย์  และพระอาจารย์บุญเรือง เป็นพระอนุสาวนาจารย์   มีฉายาทางธรรมว่า  “  ศิริปัญโญ  ”  เมื่อบวชเป็นภิกษุสงฆ์แล้วท่านได้มาจำวัดอยู่วัดคลองคล้า ได้ศึกษาวิชากับอยู่กับหลวงพ่อหวาน  วัดคลองคล้า สุดยอดพระอภิญญาเลยทีเดียว  ท่านร่ำเรียนวิชามามากหลายเกจิอาจารย์  เพราะตลอดการบวชของ หลวงพ่อหวานท่านออกเดินธุดงค์ตลอดชีวิต ท่านเคยเสกปลัดวิ่งทวนน้ำ เสกจนปลัดกระโดดบาตร และได้ศึกษาวิชาที่หลวงพ่อเขียนที่มอบให้   ได้ศึกษาตำราเก่าของหลวงพ่อทบ วัดชนแดน ศึกษาวิชาอาคมวิปัสสนากรรมฐานแต่ละกองจึงเห็นทุกอย่างล้วนไม่เที่ยง เป็นอนิจจัง ล้วนอนัตตา นี่เองสัจธรรมในโลก

 มีผู้ถามหลวงปู่อุ้ยว่า  “ อยากสึกไหม  ”  หลวงปู่อุ้ย ท่านตอบว่า จะสึกไปทำไม  ทางโลกมันวุ่นวาย  อยู่ปฏิบัติธรรมดีกว่า  ขออยู่ตายคาผ้าเหลือง   ” 

ดังนั้น  หลวงปู่อุ้ย  จึงได้วิชาในสายหลวงพ่อเขียนมาอย่างเอกอุ  พุทธาคมนี้หลวงปู่อุ้ยไม่เป็นสองรองใคร แต่ท่านไม่พูด ท่านเงียบเฉยเหมือนหลวงตาเฝ้าวัด  ประกอบกับวิชาอาคมที่หายากอีกมากมายจาก หลวงพ่อหวาน วัดคลองคล้า อดีตเจ้าอาวาสเรืองอาคม  แม้แต่หลวงปู่พวง วัดน้ำพุฯ พระเกจิชื่อดังแห่งเมืองเพชรบูรณ์อีกรูปหนึ่ง ยังมีความสนิทสนมถูกอัธยาศัยกับหลวงปู่อุ้ย ส่วนหลวงปู่อุ้ยยังเคยไปอยู่จำพรรษาที่วัดหลวงปู่พวง หลายครั้ง  หลวงปู่พวงท่านเป็นพระรุ่นพี่   หลวงปู่อุ้ยท่านเคารพนับถือหลวงปู่พวงมาก เสมือเป็นอาจารย์อีกองค์หนึ่ง  หลวงปู่พวงท่านสอนวิชาอาคมให้หลวงปู่อุ้ยจนหมด เวลามีงานปลุกเสกวัตถุมงคลหลวงปู่พวง ฐานวโร    หลวงปู่อุ้ย ศิริปัญโญ จะต้องมาทุกครั้ง  หลวงปู่พวง วัดน้ำพุฯท่านเป็นศิษย์รักของหลวงพ่อทบ แห่งวัดชนแดน  ได้ร่ำเรียนจากหลวงพ่อทบมาหมดทุกแขนง  หมดไส้หมดพุง   เมื่อเรียนจากหลวงพ่อทบหมดแล้ว หลวงพ่อทบยังพาหลวงปู่พวงไปฝากฝังไว้กับหลวงพ่อเขียน สำนักขุนเณรไว้หลายพรรษา  ขนาดหลวงปู่ละมัย สวนสมุนไพรบ้านกล้วย สหธรรมมิกหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน ท่านยังรับรองหลวงพ่อพวง วัดน้ำพุท่านเป็นพระเหนือโลก     

ตอน ที่หลวงตาแคล้ว  วัดหนองเล้าไก่  ยังมีชีวิตอยู่  คนมาขอพระเครื่อง ท่านยังบอกว่า “   ที่เพชรบูรณ์ หมดหลวงพ่อพวง ต้องไปหาพระอาจารย์อุ้ย วัดคลองคล้า เขาเก็บไว้หมด   ”  

บวชพระมาก็หลายพรรษา  หลวงปู่อุ้ย ท่านก็ยังไม่เคยสร้างพระเครื่องของตัวเองสักที  มีแต่ไปปลุกเสกให้กับวัดอื่นเค้า บ้างทีก็มีพระเครื่องที่ลูกศิษย์ห้อยคอ ปลดลงมาให้เสกให้ก็เท่านั้น     

  สมัยก่อนเขานิมนต์ไปปลุกเสกพระ  ทางวัดเจ้าภาพเขามอบพระแจกมาให้ 1 ถุง ฉันก็เอามาแจกบ้าง ก่อนแจกฉันก็เสกอยู่นาน  ไม่แน่ใจ  ยกไปให้อาจารย์หวาน  ท่านเสกให้  พอเปิดกล่อง  ท่านก็บอกว่า ฉันเสกไม่เข้าแล้ว   ท่านเสกจนจะบินแล้วนี่  ”          

  ฉันก็ยัง  ไม่แน่ใจ เอาอีก  เอาไปให้หลวงพ่อพวง  วัดน้ำพุ  ท่านเสกให้  ท่านหยิบเท่านั้นแหละ  ท่านกำพระไว้  ยกขึ้นเหนือหัวท่านเลย  หาว่าเรามาล้อท่านเล่น  ท่านว่า  เสกจนหมุนได้แล้วจะให้ผมทำอะไรอีก  ” 

ทุกวันนี้หลวงปู่อุ้ย  ศิริปัญโญ มีลูกศิษย์ไปมาหากันทุกวันเลย  ผีเข้าเจ้าสิงที่ไหนรักษาไม่หายพามาหาหลวงปู่อุ้ย ท่านช่วยได้  ไปให้ท่านรดน้ำมนต์บ้าง  อาบน้ำมนต์บ้าง  เพื่อเป็นสิริมงคล   ท่านจะทำน้ำมันว่านเพื่อแก้โรคต่างๆ   แม้นหมู่บ้านอื่นยังมาให้ท่านสงเคราะห์อยู่เสมอ เช่น  หมู่บ้านโป่งตาเบ้า  หมู่บ้านลาดน้อย  หมู่บ้านน้ำพุ  หมู่บ้านห้วยงาช้าง  และอีกหลายๆหมู่บ้าน หากทุกท่านได้มากราบหลวงปู่อุ้ย ทุกท่านจะเลื่อมใสศรัทธามากครับ ท่านชอบปฏิบัติธรรม ลด ละ  กิเลส  มีเมตตา ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ  

ในด้านถาวรวัตถุ  ทางวัดมี กุฏิพระ  ศาลาการเปรียญ  เมรุ  แต่ชำรุดทรุดโทรม ต่อไปต้องมีการบูรณะใหม่

หลวงปู่อุ้ย เป็น ยอดพระเกจิที่ชาวเมืองเพชรบูรณ์ ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ท่านเป็นคนเงียบ ไม่พูด ไม่คุย แต่ชาวเมืองเพชรบูรณ์ทราบดีว่า พระรูปนี้เป็นยอดพระเกจิที่เข้มขลังขนานแท้ ท่านสืบพุทธคุณสายลุ่มน้ำป่าสักและสายพิจิตรมาอย่างครบถ้วน

เมื่อไม่นานมานี้ขณะที่เจริญสมาธิกรรมฐาน หลวงปู่อุ้ย  เห็นหลวงพ่อพวง  มาปรากฏในนิมิต  ท่านส่งยิ้มให้  พร้อมกับว่าอย่าลืม ...อย่าทิ้งลูกหลานเน้อ  วิชาที่อาจารย์สอนมา  นำมาใช้  ช่วยได้   พอหลวงปู่อุ้ย  ท่านลืมตาตื่นขึ้นมา  ท่านได้นั่งนึก  ถึงหลวงพ่อหวาน  อดีตเจ้าอาวาสวัดคลองคล้า และ  หลวงพ่อพวง  วัดน้ำพุ  ท่านได้สร้างปลัดไม้  ได้เข้มขลังหาใครทัดเทียมได้  (ในสายตาของหลวงปู่อุ้ย )    ท่านจึงคิดจะสร้าง  คุณปลัด พ่อเนื้อหอม  ออกมาให้ญาติโยมได้ทำบุญ   วัตถุมงคลอีกอย่างก็คือ  พระอุปคุต  ท่านเห็นว่ากำลังบารมีพระอุปคุต มีคุณวิเศษกล่าวได้ไม่จบสิ้น คอยช่วยพระศาสนามาจนถึงทุกวันนี้  หลวงปู่อุ้ยท่านทราบมาว่า  ทางอีสานมีพระคุณเจ้ารูปหนึ่งได้สร้างพระอุปคุตได้ดีที่หนึ่ง  จากนั้นก็หาผู้สร้างได้ขลังแบบนี้หามีไม่   ยังไม่เจอ   วันนี้ท่านจึงจะสร้าง   พระอุปคุต  ให้เกิดขึ้นทางภาคเหนือ  คือจังหวัดเพชรบูรณ์นี่เอง  ท่านให้ชื่อว่า   พระอุปคุตมหาเศรษฐี  ชนะมาร  ”   ให้คนที่บูชา  มีกิน มีใช้  ไม่อดยาก หากินคล่องตัว  ศัตรูหมู่มารแพ้สิ้นซาก ใครคิดร้าย คิดไม่ซื่อ จะอยู่ไม่นาน ของต่ำของชั่วคุณไสย  กระดอนกระเด็นกลับหมด สิ่งที่สาม คือตะกรุดจารมือ เรียกว่า  ตะกรุดมหาลาภ ชื่อก็ตรงๆตัว มหาลาภ  
วัตถุประสงค์ การจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นแรก ของหลวงปู่อุ้ย ท่านต้องการสร้างวิหารทรงจตุรมุขหลวงปู่พวง วัดน้ำพุฯ ให้แล้วเสร็จ

  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น